ขอโทษประเทศไทย

วันอังคารที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ขนมไทย


เครื่องปรุงข้าวเหนียว 350 กรัมกะทิ 1 กระป๋องน้ำตาลทราย ¾ ถ้วยเกลือ 1¼ ช้อนชาแป้งข้าวเจ้า 1 ช้อนชาใบเตย 4-5 ใบ

วิธีทำ

1. นำข้าวเหนียวมาล้างน้ำให้สะอาดแล้วแช่น้ำทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมงหรือทิ้งไว้ข้ามคืนก็ได้

2. เปิดเตาที่ไฟปานกลางค่อนข้างแรง ตั้งหม้อนึ่ง ใส่น้ำลงไป เมื่อน้ำเดือดให้สะเด็ดน้ำข้าวเหนียวขึ้นมา ห่อผ้าขาวบาง ตัดใบเตยวางลงไปประมาณ 2 ใบแล้วนำไปนึ่ง

3. นึ่งไปประมาณ 30 นาที หรือจนข้าวเหนียวสุก (สังเกตว่าเม็ดข้าวเหนียวจะใสขึ้น)

4. นำกะทิมาแบ่งไว้ ¾ ถ้วย สำหรับกะทิส่วนที่เหลือเอาไปใส่ลงในหม้อ ใส่น้ำตาลและเกลือ 1 ช้อนชาลงไป นำไปตั้งบนไฟอ่อน

5. มัดใบเตยลงไปในหม้อ 2 ใบ คนเรื่อยๆ จนน้ำตาลละลาย อย่าให้กะทิเป็นก้อน รอจนกะทิเดือดก็ปิดเตาและยกลงได้

6. ตักข้าวเหนียวที่สุกแล้วใส่ในอ่างผสม เทกะทิร้อนๆ ใส่ลงไป คนเร็วๆ ให้ทั่วแล้วปิดฝาให้ข้าวเหนียวระอุ ประมาณ 15 นาที

7. นำกะทิ ¾ ถ้วยที่แบ่งไว้มาผสมกับแป้งข้าวเจ้าและเกลือ ¼ ช้อนชา นำไปตั้งไฟ คนเรื่อยๆ จนกะทิข้น พอกะทิเดือดก็ปิดเตาได้ เตรียมไว้เป็นกะทิสำหรับราดหน้า

8. ตักข้าวเหนียวใส่จาน ราดด้วยน้ำกะทิที่เตรียมไว้ เสิร์ฟพร้อมมะม่วงสุกได้เลยค่ะ

วิธทำขนมเบื้อง


สูตรขนมหวานไทย : ขนมเบื้อง

เครื่องปรุง + ส่วนผสม

+ ส่วนผสมตัวแป้ง +
* แป้งข้าวเจ้า 350 กรัม
* แป้งถั่วเขียว 200 กรัม
* แป้งสาลี 100 กรัม
* น้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วยตวง
* น้ำปูนใส 2 ถ้วยตวง
* ไข่เป็ด (เฉพาะไข่แดง) 2 ฟอง

+ ส่วนผสมน้ำตาลทาขนม +
* น้ำตาลปี๊บ 500 กรัม
* ไข่เป็ด (เฉพาะไข่ขาว) 20 ฟอง
+ ส่วนผสมหน้าครีม + วิธีทำขนมไทย ทีละขั้นตอน
1. เตรีมทำตัวแป้งโดยนำแป้งข้าวเจ้า, แป้งถั่วเขียวและแป้งสาลีไปร่อนรวมกัน แล้วจึงนำไปผสมกับน้ำปูนใส, น้ำตาลปี๊บและไข่แดง นวด(ขยำ) จนส่วนผสมเข้ากันดี แล้วจึงพักไว้
2. เตรียมทำน้ำตาลทาขนมเบื้อง โดยนำไข่ขาวและน้ำตาลปี๊บมาผสมกัน คนจนน้ำตาลละลายทั่วดี แล้วจึงพักไว้
3. เตรียมทำส่วนผสมหน้าครีม โดยผสมไข่ขาว, น้ำตาลทรายและครีมออฟทาร์ทาร์เข้าด้วยกัน ตีจนส่วนผสมเข้ากันดี, ผิวเนียนและขึ้นฟู จึงพักไว้
4. ตั้งไฟบนกระทะก้นแบน ใช้กระจ่าแตะที่ส่วนผสมตัวแป้ง (ที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 1) แล้วละเลงบนกระทะ จากนั้น จึงเลือกเอาว่าจะทาน้ำตาล (ส่วนผสมที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 2) หรือจะทาครีม (ส่วนผสมที่เตรียมไว้ในขั้นตอนที่ 3) เลือกเอา อย่างใดอย่างหนึ่งเท่านั้น แล้วละเลงบนตัวแป้ง
5. จากนั้นจึงเลือกว่าจะใส่ไส้เค็มหรือไส้หวาน เมื่อใส่ไส้เสร็จแล้ว รอสักพักจนขนมสุกจึงพับครึ่งแล้วแซะใส่ถาด หรือจัดใส่จานเสริฟ

วิธีทำเครปญี่ปุ่น


ส่วนผสมแป้งเครปไข่ไก่สด..........................................2 ฟอง

น้ำตาลทราย....................................1 ช้อนชา

เกลือ................................................1/4 ช้อนชา

แป้งอเนกประสงค์ตราว่าว..................2/3 ถ้วยนมสด...............................................3/4 ถ้วยน้ำมันพืช..........................................1 ช้อนชา

กลิ่นวานิลา....................................... 1/2 ช้อนชาวิธีทำ

1. ร่อนแป้งเตรียมไว้ เติมน้ำตาลทรายและเกลือ คนให้เข้ากันด้วยตะกร้อมือ

2. เติมน้ำมันพืช ไข่ไก่ นมสด และกลิ่นวานิลา คนให้เข้ากัน ระวังอย่าให้เป็นเม็ด

3. เตรียมอุ่นเตาให้ร้อน ทาเนยเล็กน้อยจะทำให้แป้งไม่ติดกะทะ

4. ตักส่วนผสมประมาณ 1 ทัพพี หยอดลงบนเตา เกลี่ยด้วยไม้เครปให้เป็นรูปวงกลม โดยการหมุนไม้เครปไปรอบๆรัสมีเตา ปลายข้างหนึ่งอยู่จุดศูนย์กลางเตา จะทำให้ได้เครปที่กลมสวย

5. สักพักแป้งใกล้สุก ให้เติมใส้ที่ต้องการ โดยทาหรือเกลี่ยใส้ทั่วแป้งเครป หรือถ้าไส้เป็นชิ้นหนาเช่นไส้กรอก แฮม ทูน่า ควรวางเพียงครึ่งเดียวจะพับได้สดวกกว่า

6. ใช้ที่แซ่ะขนม หรือเกรียงแซ่ะขอบ พับครึ่งก่อน แล้วจึงพับประกบด้านซ้าย ขวา

7. ใส่ซองเครปแบบกระดาษที่เตรียมไว้

วันพุธที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ไข่ต่น



เครื่องปรุงไข่ไก่ฟองใหญ่ 3 ฟองหมูสับ 50 กรัมซีอิ้วขาว 1 ช้อนโต๊ะซอสปรุงรส 1 ช้อนชาน้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะน้ำตาลทราย 1 ช้อนชาน้ำเปล่า 1 ½ ถ้วยต้นหอม 1 ต้นผักชี 2 ต้นวิธีทำ

1. ตัดรากต้นหอมและตัดก้านผักชี นำไปล้างน้ำให้สะอาด จากนั้น นำต้นหอมมาซอยให้ละเอียดและเด็ดผักชีเป็นใบๆ

2. ตอกไข่ใส่ชาม ตีให้เข้ากัน เติมน้ำเปล่าและเครื่องปรุงต่างๆ คือ ซีอิ้วขาว ซอสปรุงรส น้ำมันหอย และน้ำตาลทรายลงไป

3. คนส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากัน เทใส่ถ้วยสำหรับนึ่งโดยกรองผ่านกระชอนเพื่อกรองเยื่อไข่และฟองออก

4. ใส่หมูสับลงไปคนให้ทั่ว โรยหน้าด้วยต้นหอมซอยและใบผักชี ปิดปากถ้วยด้วยพลาสติกกันความร้อน เพื่อไม่ให้ไอน้ำลงไปในไข่ เนื้อไข่ตุ๋นจะได้เนียนนุ่ม จากนั้น นำถ้วยไปนึ่งในหม้อนึ่งในขณะที่น้ำเดือด นึ่งไปประมาณ 20-25 นาทีหรือจนไข่สุก

5. ยกลงจากเตา จากนั้นก็ยกเสิร์ฟตอนร้อนๆ ได้เลยค่ะ

เเต่งหน้า



ใช้ครีมรองพื้นรอบดวงตาและปกปิดริ้วรอยชนิดแท่ง สีเข้ม ป้ายไปตามจุดที่ต้องการปกปิด เช่น รอยปาน กระ รอยแผลเป็น รวมถึงของจมูก เพื่อเสริมให้สันจมูกดูเด่นขึ้น จากนั้น ใช้นิ้วมือเกลี่ยให้เนียนกลมกลืน
หากต้องการแก้ไขรูปหน้าให้เรียวขึ้น ให้ลากครีมรองพื้นรอบดวงตาและปกปิดริ้วรอยชนิดแท่ง เป็นเส้นไปตามแนวขากรรไกร ปีกจมูก คาง หรือหน้าผาก แล้วใช้ฟองน้ำเกลี่ยให้กลมกลืนทั่วบริเวณนั้นๆ
ควรตรวจสอบให้มั่นใจทุกครั้งว่า บริเวณที่เฉดดิ้งไม่ทิ้งรอยคราบเป็นเส้นเ่ด่นชัด ถ้ามีควรเกลี่ยให้กลมกลืน

ข้าว


ข้าวสวย เนื้อปูกระป๋องกระเทียมกลีบใหญ่ หัวหอมใหญ่ ต้นหอม น้ำมันหอย ซีอิ้วขาว น้ำตาลทรายน้ำมันพืช ไข่ไก่ มะเขือเทศมะนาว ผักกาดหอม วิธีทำ

1. ปลอกเปลือกหัวหอมใหญ่และกระเทียม ตัดก้านต้นหอม ล้างน้ำให้สะอาด สะเด็ดน้ำ จากนั้น นำหัวหอมใหญ่มาหั่นบางๆ นำกระเทียมมาสับให้ละเอียด และนำต้นหอมมาซอย

2. เปิดเตาที่ไฟปานกลาง ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันลงไป รอจนน้ำมันเริ่มร้อน ใส่หัวหอมใหญ่ที่หั่นไว้และกระเทียมสับลงไปผัดจนหอมและหัวหอมใหญ่สุกใส จากนั้นจึงตอกไข่ใส่ลงไป

3. ยีไข่ให้กระจาย ใส่ซีอิ้วขาวลงไป 1 ช้อนโต๊ะ แล้วรอจนไข่เริ่มสุก จึงค่อยผัดให้เครื่องเข้ากัน

4. บีบน้ำในกระป๋องเนื้อปูออกให้หมด จากนั้นนำเนื้อปูไปใส่ในกระทะ เติมซีอิ้วขาวที่เหลืออีก 1 ช้อนโต๊ะและน้ำตาลทรายลงไป ผัดให้ทั่ว

5. ใส่ข้าวสวยลงไป เติมน้ำมันหอย จากนั้น ผัดให้เครื่องปรุงทั้งหมดเข้า

ต้นหอมซอยลงไป ผัดซักพักก็ปิดเตาและยกลงได้

6. ตักข้าวผัดปูใส่จาน ตกแต่งผักต่างๆ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย

วิธีรักษาสิว


น้ำมะนาว รักษาสิวด้วย"วิธีธรรมชาติ" ... หาได้จากตู้เย็นในครัวที่บ้านใช้น้ำมะนาวเพื่อบรรเทา / รักษาสิว เป็นวิธีธรรมชาติในการรักษาสิวที่ง่ายและปลอดภัยสามารถใช้ได้ทั้งทาบนผิวและดื่ม ทั้งสองวิธีจะช่วยลดการเกิดสิวและรอยแผลเป็นทั้งภายนอกและภายใน ได้มีทดลองใช้น้ำมะนาวทั้งสองวิธีแล้ว (ทาโดยตรงบนผิวหน้า และดื่ม) และพบว่าภายใน 3 สัปดาห์ สิวก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และเชื่อว่าการผสมน้ำมะนาวกับผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่อ่อนโยน จะช่วยให้ผลเร็วขึ้นทาน้ำมะนาวโดยตรงบนสิวน้ำมะนาวมีกรดผลไม้ AHA หรือ Alpha Hydroxy Acids ทำงานโดยการลอกเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผิว และช่วยให้เซลล์ผิวใหม่ที่อยู่ด้านล่างได้ผลัดขึ้นมาแทนที่เซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว ยังช่วยชำระรูขุมขนและช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่น สดใสด้วยสูตรน้ำมะนาว / วิธีใช้1.ล้างหน้าให้สะอาด

1 ช้อนชาในถ้วยเล็ก ใช้สำลีจุ่มน้ำมะนาวพอเปียก อาจผสมน้ำหากรู้สึกว่าแสบเกินไป2

ป้ายน้ำมะนาวลงบนสิว สิวหัวขาว สิวหัวดำ สิวหัวหนอง

3.ทิ้งไว้ทั้งคืนโดยไม่ต้องล้างออก ล้างออกตอนเช้า และทาอีกครั้งก่อนเมคอัพ (หากคุณต้องใช้เมคอัพ)

4หากรู้สึกว่าน้ำมะนาวนั้นแรงเกินไป แม้ว่าจะผสมน้ำให้เจือจางแล้วก็ตาม ให้ทิ้งไว้ 10 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นวิธีการนี้ใช้เวลา 2 สัปดาห์เป็นอย่างต่ำจึงจะเห็นผล ดื่มน้ำมะนาวเพื่อรักษาสิวสามารถใช้วิธีการดื่มน้ำมะนาวเพื่อรักษาและทำความสะอาดภายในร่างกาย หรือขจัดสารพิษออกจากตับ และเพื่อให้การดูดซึมแร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย น้ำมะนาวนั้นเป็นเครื่องดื่มชนิดหนึ่งที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายและผิวพรรณ ที่ช่วยให้กระชุ่มกระชวย ดื่มง่าย และทำได้ง่ายความจริงแล้วการรักษาสิวด้วยการดื่มน้ำมะนาวนั้นมีประโยชน์หลายอย่าง ที่ทุกคนควรดื่ม (สำหรับคนที่ไม่แพ้มะนาว) ประโยชน์ต่าง ๆ เหล่านั้นคือ :-ขจัดกรดต่าง ๆ ที่ตกค้างออกไป เพราะน้ำมะนาวมีแร่ธาตุต่าง ๆ (วิตามินซี, โพแทสเซียม)-บรรเทาอาการท้องผูก-ทำความสะอาดตับด้วยกรดซิตริก และสร้างเอนไซม์เพื่อขจัดสารพิษในเลือด-ช่วยกระบวนการย่อยอาหาร-กำจัดนิ่วในไต และตับอ่อนการรักษาสิวโดยการดื่มน้ำมะนาว สูตร 11.บีบน้ำมะนาว 1 ผลลงในแก้ว2.เติมน้ำเปล่า 2 ถ้วย (ถ้วยละ 8 ออนซ์)3.ดื่มน้ำมะนาวที่ผสมนี้ได้ทั้งวันการรักษาสิวโดยการดื่มน้ำมะนาว สูตร 21.บีบน้ำมะนาว 1 ผล ผสมกับน้ำอุ่นที่ต้มแล้ว 1 ถ้วย (8 ออนซ์)2.ดื่มเป็นสิ่งแรกของวัน ในตอนเช้า3.หลังจากดื่มน้ำมะนาว งดการดื่ม หรือรับประทานสิ่งใด ๆ ภายในครึ่งชั่วโมง เพื่อให้น้ำมะนาวได้ชำระล้างร่างกาย
การอ้างอิง

วันพุธที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ขนมเล็บมือนาง




ผสมแป้งสองชนิดรวมกันค่อย ๆ ใส่น้ำนวดให้เข้ากันจนแป้งละลาย เทใส่กระทะทอง ตั้งไฟกวนจนกระทั่งแป้งจับตัวเป็นก้อน ไม่ติดกระทะ ยกลง เทแป้งที่เย็นแล้วใส่อ่าง ใช้มือจุ่มกะทิหรือน้ำนวดจนแป้งเหนียวนุ่ม นำมาปั้นเป็นก้อนกลม ๆเล็ก ๆ ทำเป็นเส้นยาวประมาณ 1 นิ้ว ให้แหลมหัวแหลมท้าย ตรงกลางป่อง ตั้งน้ำให้เดือด ใส่แป้งต้มพอแป้งสุกลอยตักขึ้น หรือนำแป้งไปนึ่งจนสุก นำหัวกะทิ 2 ถ้วย ตั้งไฟพอเดือดใส่แป้งต้มคนให้ทั่ว ยกลงจัดขนมใส่ถ้วยโรยด้วยมะพร้าวทึมทึกขูด งาคั่วบุบผสมเกลือ น้ำตาล

ส่วนผสม แป้งข้าวเจ้าแป้งท้าวน้ำลอยดอกมะลิ
41/24
ถ้วยตวงถ้วยตวงถ้วยตวง
โรยหน้ามะพร้าวทึมทึกขูดกะทิข้น ๆงาคั่วบุบน้ำตาลทราย เกลือ
123/41 1/21 1/2
ลูกถ้วยตวงถ้วยตวงถ้วยตวง ช้อนชา

สุนทรภู่

วันรำลึกสุนทรภู่ (26-27 มิถุนายน 2546)
คลิก<ประวัติสุนทรภู่ที่น่าสนใจ ><บทกวีอันไพเราะบางตอนที่คัดมาเฉพาะ>

ภาพบรรยากาศในงานวันรำลึกสุนทรภู่ กวีเอกของไทย กวีเอกของโลก จัดขึ้นภายในวัดเทพธิดาราม ใกล้กับสำนักงานกรุงเทพมหานครที่เสาชิงช้า งานได้จัดในวันที่ 26 - 27 มิย. 2546 ตรงกับคล้ายวันเกิดของสุนทรภู่ ซึ่งเกิดวันที่ 26 มิถุนายน 2329 มาจนถึงปี 2546 นี้ ครบรอบ 217 ปีพอดี
วัดเทพธิดาราม เคยเป็นวัดที่สุนทรภู่มาจำพรรษาเมื่อปี 2383 ขณะนั้นอายุได้ราว 54 ปี อยู่ที่วัดนี้ได้ 3 พรรษา ก็ลาสิกขาบท ด้วยเหตุผลเพื่อเตรียมตัวตาย โดยมีสาเหตุมาจากฝันร้าย ว่าชะตาขาดจนถึงแก่ชีวิตจึงได้แต่งนิราศรำพันพิลาป ซึ่งบทกวีที่สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราวชีวิตของสุนทรภู่
ภายในวัดเทพธิดารามมีกุฏิของสุนทรภู่ และยังได้เก็บเครื่องอัฐบริขารต่างๆ เมื่อครั้งสมัยที่ยังอยู่ในสมณเพศปัจจุบันได้รักษาไว้เป็นพิพิธภัณฑ์เพื่อให้ประชาชนทั่วไปมาเยี่ยมชมและศึกษาค้นคว้า และในช่วงที่จัดงานรำลึกนี้ มีเด็กนักเรียนมาเข้าชมเป็นหมู่คณะเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศภายในเขตอาศรมของวัด เจี้ยวจ้าวไปด้วยเสียงเด็กๆที่วิ่งเล่นกันรอบวัด
วันที่มาถ่ายภาพงานรำลึกฯนี้ เป็นช่วงเวลาเย็น ท้องฟ้าเริ่มครึ้มฝนจนไม่ชักแน่ใจว่าจะฝนจะตกกลางงานหรือไม่ เพราะเมื่อวานก็ตกหนักกันทั่วกรุงจนงานล่มมาแล้ว ลานสนามหญ้าบางส่วนก็ยังเฉอะแฉะไปด้วยน้ำ
ในมุมหนึ่งของพื้นที่จัดงาน ได้จำลองเป็นลานวัดสมัยโบราณ มีการออกร้านต่างๆที่เป็นบรรยากาศแบบไทยๆวันนั้นมีผู้สนใจเข้ามาในงานค่อนข้างบางตา ทั้งๆที่มีการออกข่าวทีวี ลงหนังสือพิมพ์ และมีรายการพูดคุยเรื่องนี้ทางคลื่นวิทยุ
ที่ริมกำแพงข้างวัดได้จัดเวทีการแสดงของนักเรียน ในขณะนั้นนักแสดงตัวน้อยๆ กำลังแตรียมตัวขึ้นเวทีแต่ละโรงเรียนกำลังแต่งหน้าแต่งตาและซักซ้อมก่อนการแสดง
เมื่อแสดงไปได้ไม่กี่ชุด ท้องฟ้าก็เริ่มมืดดำ และมีลมพัดรุนแรง
ไม่นานฝนก็ลงเม็ด จนผู้ชมที่นั่งเก้าอี้กลางสนามเริ่มกางร่ม และส่วนใหญ่ก็หลบฝนไปยืนดูอยู่ด้านอื่นแต่การแสดงบนเวทีก็ยังดำเนินต่อไปจนครบทุกชุด โดยที่ผู้แสดงทุกคนไม่ได้สะทกสะท้านแต่อย่างใดยังแสดงเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นท่ามกลางรอยยิ้มและใบหน้าที่เปียกฝน ซึ่งได้รับเสียงปรบมือจากผู้ชม ที่ยังหลงเหลือ
ประวัติสุนทรภู่โดยสังเขปบทกวีอันไพเราะที่คัดมาให้ดูบางตอน
การถ่ายภาพ วันนั้นเตรียมฟิล์ม สไลด์ Kodak E 100VS และ Kodak Extrachrome 400 ซึ่งกะว่าช่วงเย็นๆฟิล์มไวแสง 100 น่าจะถ่ายได้แม้บรรยากาศช่วงเวลานั้นจะมีฝนตกทุกวัน อาจถ่ายยากหน่อยแต่คิดว่าเพื่อแลกกับเกรนของภาพที่ละเอียดและสีอิ่มตัวกว่า จึงไม่มีการ push film ไปที่ 200 หรือเลือกใช้ฟิล์ม 400แต่อย่างใด ซึ่งผลที่ออกมาก็ได้ภาพตามที่คาด
ช่วงตอนเย็นๆประมาณห้าโมงเย็น ก่อนการแสดงเริ่มขึ้น ได้ไช้ฟิล์มสไลด์ Kodak E 100VS กับกล้องNikon F 90 ถ่ายในสภาพที่มีแสงแดดอ่อนๆ ซึ่งยังพอถ่ายได้ และใช้แฟลชเสริมเป็นบางภาพในมุมที่แสงไม่พอ ความเร็วที่ใช้จะอยู่ระดับ 1/60 และ 1/30 ซึ่งต้องถือกล้องให้นิ่งๆ ภาพส่วนใหญ่ใช้เลนส์ Nikon 28 - 70 จะใช้เลนส์ 75-300 กรณีที่ต้องการเก็บภาพที่อยู่ไกล และต้องการได้ภาพ candid
การวัดแสง วัดแบบเฉลี่ยหนักกลาง และปรับกล้องให้ under 1/3 stop เพื่อให้สีอิ่มตัวเพิ่มขึ้น
มุมถ่ายภาพ ส่วนใหญ่จะเกาะติดกลุ่มนักเรียนที่กำลังเตรียมเนื้อเตรียมตัวเพื่อขึ้นเวที เป็นภาพเบื้องหลังของการแสดงถ่ายภาพโดยเด็กนักเรียนรู้ตัวบ้าง ไม่รู้ตัวบ้าง ปล่อยให้เป็นธรรมชาติของพวกเค้า เด็กบางคนก็ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะทำยังไงดี เพราะมีกล้องเล็งอยู่ข้างหน้า บางทีก็ทำหน้าเจื่อนๆ จะยิ้มก็ไม่กล้า คงสงสัยว่าใครก็ไม่รู้ กำลังถ่ายภาพพวกเรา
ถ่ายภาพบริเวณนั้นอยู่นาน จนเด็กๆไม่ค่อยให้ความสนใจนัก แม้จะจ่อกล้องอยู่ใกล้ๆ ทั้งนี้เป็นเพราะมีคนพลุกพล่าน และส่วนใหญ่ก็สนใจหน้าตาตนเองมากกว่าจะสนใจว่าใครกำลังจ้องถ่ายภาพ ทำให้ภาพที่เห็นในบรรยากาศข้างเวทีเป็นภาพที่ดูเป็นธรรมชาติ
ส่วนภาพบนเวที ใช้ฟิล์มสไลด์ Extrachrome 400 ใช้แฟลชบ้าง ไม่ใช้บ้างสลับกันไป ในวันนั้นท้องฟ้าครึ้มฝน ช่วยทำให้เกิดการคอนทราสต์ของสีสันบนเวทีและฉากหลังที่เป็นท้องฟ้าสีน้ำเงินปนเทา เป็นภาพที่ออกจะดูแปลก และหาดูได้ไม่ง่ายนัก
ความตั้งใจที่มาถ่ายภาพครั้งนี้ มาจากได้เห็นข่าวจากทีวี ถ่ายภาพในกุฏิสุนทรภู่ เห็นเครื่องใช้ไม้สอยและที่ลานหญ้าหน้าวัดก็มีบรรยากาศย้อนยุค ซึ่งเป็นภาพที่น่าสนใจ โดยเฉพาะวัดเทพธิดารามก็พึ่งได้ยินเป็นครั้งแรก เป็นวัดที่สุนทรภู่เคยมาจำพรรษา แต่เมื่อมาถ่ายภาพแล้วกลับไม่ได้ภาพตามที่ตั้งใจ กุฏิสุนทรภู่ก็เห็นแต่ป้ายชี้บอกทาง แต่ไม่ได้เดินเข้าไปดูเพราะเป็นช่วงเวลาเย็นแล้ว อากาศก็ขมุกขมัว ถ่ายไปก็คงยุงยากลำบากในเรื่องการจัดแสง จึงเปลี่ยนใจมาเดินดูบริเวณอื่นของวัด
ที่ลานหญ้าหน้าวัด ก็มีมุมขายของแบบไทยๆอยู่ไม่กี่ร้าน มีคนสนใจเข้ามาชมน้อยมาก แต่ก็ยังมีจุดที่น่าสนใจในขณะนั้น ก็คือการแสดงชุดไทยๆของเด็กนักเรียนในเขต กทม. ซึ่งจะแสดงเวลาหกโมงเย็น จึงได้เดินหาภาพในกลุ่มนักแสดงที่กำลังเตรียมตัว
และนี่ก็คือที่มาของภาพชุดนี้
สวัสดีครับwebmaster

วันพุธที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2553

100 ข้อคิดดีๆ

100 ข้อคิดดีๆ สั้นๆ เตือนใจคุณ บางครั้งการใช้ชีวิตก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป เราจำเป็นต้องมีหลักยึดเตือนใจ เพื่อให้อยู่ในสังคมอย่างสงบสุข และสง่างาม ไม่เว้นเเต่จะเป็นการปฏิบัติต่อคนที่เราคิดว่าเป็นเพื่อน เพื่อเป็นการรักษามิตรภาพให้ยืนยาว อีกทั้งยังเป็นการคบกันด้วยความจริงใจ ช่วยเหลือกันในยามมีความทุกข์ ในยามสุขก็แบ่งปันให้กันด้วยความจริงใจ หากใครบอกว่า โอ้โหตั้ง 100 ข้อเชียวหรอ แต่ขอบอกว่าลองศึกษาดูก่อน มันไม่มากไม่มายและยากเย็นเกินไปที่เราจะปฏิบัติเลยจริงๆ
1.เอาใจเขามาใส่ใจเรา
2.เชื่อมั่นตัวเอง
3.อย่ามองคนที่หน้าตา
4.กล้าคิด พูด และทำ
5.เมื่อมีเรื่อง จงหมั่นปรึกษาผู้อื่น
6.และจงเป็นที่ปรึกษาให้ผู้อื่นด้วย
7.อย่าโกหกกับเรื่องที่คุณคิดว่าผิด
8.ไว้ใจบุคคลที่สมควรไว้ใจ
9.เปิดใจให้กว้าง
10.มองการณ์ไกล
11.วางแผนอนาคต
12.อย่าโทษตัวเอง
13.มีความรับผิดชอบ
14.ตอบแทนเมื่อได้รับ
15.ให้ในสิ่งที่ผู้อื่นอยากได้และไม่มี
16.อย่าใช้อารมณ์ แต่จงใช้ความคิด
17.คิดถึงส่วนรวมให้มาก
18.ดูแลตัวเองให้เป็น
19.รู้ผิด ชอบ ชั่ว ดี
20.อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเสียเปล่า
21.อย่ารู้ค่าสิ่งที่อยู่กับเราต่อเมื่อเราสูญเสียไปแล้ว
22.จงรู้ตัวอยู่เสมอว่าตอนนี้กำลังทำอะไร
23.ที่ทำอยู่มีผลดี ผลเสีย มีประโยชน์ หรือไร้ประโยชน์
24.อย่าวัวหายแล้วล้อมคอก
25.ให้อภัยแก่ตนเองและผู้อื่น
26.อย่าเก็บอดีตมาทำร้ายตนเอง แต่จงหัดที่จะเรียนรู้จากมัน
27.คนไม่ผิดคือคนที่ใหม่เคยทำอะไร
28.ได้หน้าอย่าลืมหลัง
29.คุณไม่ใช่พระเจ้า อย่าคิดซ่อนความรู้สึก แต่จงวางแผนที่จะดูแลมันไม่ให้เสีย
30.อย่าอ่านข้อความที่มีประโยชน์ผ่านๆ
1.อ่านแล้วคิด คิดแล้วทำ หมั่นพัฒนาตนเอง
32.รู้จักแบ่งเวลา และหน้าที่
33.ทำประโยขน์ให้แก่ส่วนรวมบ้าง
34.อย่าเห็นแก่ตัว
35.อย่ารอคอยในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง
36.อย่ากลัวในสิ่งที่ตนสามารถสู้หรือเปลี่ยนแปลงมันได้
37.กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ หัดเติมให้คนอื่น แล้วเขาจะกลับมาเติมให้คุณเอง
38.เพื่อนไม่จำเป็นต้องเจอหน้ากันก็คุยกันได้
39.อย่าคิดว่าเขาไม่โทร.มา ถ้าคุณก็ไม่เคยโทร.ไป
40.จง เป็นฝ่ายให้มากกว่าเป็นฝ่ายรับ
41.ดูแลบิดามารดาให้ดี คุณมีโอกาศ รีบทำซะก่อนที่จะไม่มี
42.อย่าเสียใจกับสิ่งที่เลวร้ายหรือสูญเสียไปแล้ว มันไม่กลับมา แต่คุนสามารถทำมันใหม่หรือเรียนรู้จากมันได้
43.คำพูดเมื่อพูดไปแล้วไม่สามารถเรียกกลับมาได้ ดังนั้น คิด ก่อนพูด
4.อย่าทุ่มเทในสิ่งที่ไร้ประโยชน์
45.คำพูดให้กำลังใจคนได้ ปลอบใจได้ ยุให้ทะเลาะกันได้ ทำให้เสียความรู้สึกได้ จงรู้ที่จะพูด
46.ชีวิตไม่ใช่เกม พลาดแล้วไม่สามารถเริ่มใหม่หรือกดโหลดได้
47.หาจุดหมายให้กับชีวิต
48.เครียดได้ แต่เครียดให้เป็น

49.ถ้างง เขียนหนังสือได้ แต่เขียนให้เป็นภาษา

50.วันๆหนึ่งคุณทำอะไรบ้าง ที่ไม่ใช่ กิน นอน เล่น
51.ไม่มีหมอคนไหนรอให้คนไข้จะตายแล้วค่อยช่วยหรอกนะ
52.เพื่อนคุณก็เช่นกัน อย่าปล่อยให้เขาเครียดจนจะตายแล้วถึงไปถามหรือดูแล
53.ร่างกายไม่ใช่เครื่องจักร ให้มันพักผ่อนซะบ้าง
54.คุณซื้อนาฬิกาได้ แต่คุณไม่สามารถซื้อเวลาได้
55.ตอนนี้มีใครคอยคุณอยู่รึเปล่า ถ้ามีกลับไปหาซะ
56.ตอนนี้คุณถึงเมื่อไหร่ ทำอะไรซะบ้าง
57.อย่ากล่าวคำขอโทษบ่อย มีอะไรดีๆตั้งหลายอย่างที่ทำแล้วไม่ต้องตามไปขอโทษ
58.ตอนคุณลำบากคุณคิดถึงใคร คุณอยากให้ใครช่วยเหลือ
59.ตอนนี้คนกำลังสบายอยู่ แล้วคนที่คุณเคยขอความช่วยเหลือล่ะ หมดประโยชน์แล้วหรือ
60. ไม่ใช่ แล้วไง ต้องให้บอกต่อมั้ย
61.ทำอะไรก้อได้ให้ตัวเองมีความสุข แต่อย่าบนทุกข์ของคนอื่น
62.ตอนที่คนกำลังอ่านประโยคนี้ จงจำไว้ว่าคุณเป็นมนุษย์ และยังมีชีวิตอยู่
63.ใครเป็นคนทำให้คุนมีชีวิต ตอบแทนเขาบ้างหรือยัง
64.ไม่ต้องรอให้ถึงวันพิเศษใดๆ แค่เข้าไปบอกเขาว่ารักก้อเพียงพอแล้ว
65.อย่ารอให้ถึงวันเกิดเพื่อน ถึงจะได้คุยกันหรือให้ของขวัญกัน
66.ไม่มีกฏหมายข้อใดห้ามให้ของขวัญในวันธรรมดา
67.ถ้าเป็นคุณอยู่ดีๆ มีเพื่อนเอาขนมมาให้ คุณจะรู้สึกดีมั้ย หรือดูที่ราคาขนม
68.เหล้าทำให้คุณลืมได้ตอนเมาแอ๋ แต่เพื่อนแท้ทำให้คุณลืมเรื่องร้ายๆได้ตลอดชีวิต
69.อย่าคิดว่าตนเองไม่มีเพื่อนหรือไม่มีใคร อย่างน้อยๆถ้าคุณได้อ่านข้อความนี้ จงรู้ไว้ว่าคุณยังมีคนพิมพ์คนนี้อีกคน
70.อย่าคิดว่าตนเองเป็นคนโชคร้ายที่สุด และอย่าคิดว่าตนเองเป็นคนโชคดีที่สุด
71.อย่าพูดว่าไม่มาเป็นเราไม่รู้หรอก ถ้า งั้นคุณก้อไม่รู้เรื่องของเขาเช่นกัน
72.เหนื่อยนักก็หยุดพักซะบ้าง
73.อย่าคิดว่าคนดีไม่มีในสังคม เพราะคุณก็เป็นคนเพียงแต่คุณยังไม่ได้ทำอะไรบางอย่าง
74.ปริศนาในเกมคุณแก้ได้ แล้วทำไมปริศนาในชีวิตคุณแก้ไม่ได้ ในเมื่อบทสรุปอยู่ในตัวคุณ
75.คุณมองเพชรที่ความงามภายในหรือป้ายราคาภายนอก
76ถ้าคุณกินอาหารเหลือ ลองนึกถึงเด็กที่ไม่มีอันจะกิน
77.มีเรื่องราวอีกมากมายที่ไม่ได้เขียนอยู่ในหนังสือ ลองค้นคว้าดูจะรู้
78.ลูกธนูที่ถูกปล่อยจากหน้าไม้ อันตรายน้อยกว่าหอกที่เเทงมาจากข้างหลัง
79.การถูกหักหลังเป็นสิ่งที่เจ็บปวด อย่าให้มันเกิด
80.ทำยังไง ต้องให้ขโมยขึ้นบ้านก่อน ถึงไปดูรั้วบ้านใช่มั้ย
81.ทำใจกับสิ่งต่างๆ ล่วงหน้าไว้บ้างก้อดี
82.จะยกตัวอย่าง สมมติคนที่คุณรักจากไปตอนนี้ คุณคิดว่า คุณทำอะไรให้เขาบ้างหรือยัง
83.อย่าตอบว่าทำยังไงก็ตอบแทนไม่หมด ขอถามว่าทำครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
84.คุณทำใจได้แล้วหรือถ้ามันเกิดอะไรขึ้น คุณไปร้องไห้ข้างโลงศพ ยังไงเขาก้อไม่ฟื้นมาได้ยินหรอกนะ
85.ตัวคุณมีค่าอยู่แล้ว อยู่ที่คุณรู้จักดึงมันออกมาใช้ได้รึเปล่า
86.หัดคุยกับตัวเองซะบ้าง แล้วจะรู้ว่ามีอะไรอีกมากมายที่คุณยังไม่รู้
87.ร่างกายใช้มากี่ปีแล้ว เคยดูแลมันบ้างรึเปล่า หรือเอาไว้เพื่อให้วิญญาณมีที่สิงสถิต
88.การใส่เสื้อสวยๆไม่ช่วยให้ร่างกายดีขึ้นหรอกนะ ที่ดีขึ้นคือบุคลิกต่างหาก
89.หาความสุขของตัวเองให้เจอ หัดมีความสุขซะบ้าง อดีตเราลืมไม่ได้แต่เลิกคิดได้
90.ลองทำอะไรบ้าๆบ้างก้อดี อย่ายึดติดนักเลย
91.ผู้พิมพ์ไม่ใช่คนรู้อะไรมากมาย ไม่ได้มาโชว์ว่าตัวเองอวดรู้ แต่อยากให้คุณได้รุ้อะไรไว้บ้างก็ดี
92.สิ่งที่คุณปล่อยผ่านๆ ไปในชีวิตหรือเรื่องคุนเห็นว่าไม่สำคัญ กลับมาดูเเลตรงนั้นบ้างก็ดี
93.อย่าไว้ใจใครเกินไป ไม่ได้สอนให้ระแวงไม่ไว้ใจใคร แต่ระวังไว้บ้างก็ดี
94.อย่าตามเพื่อนนัก กินเหล้า เล่นไพ่ เที่ยวหญิงเที่ยว
95.ยาเสพติดทุกชนิด อย่าคิดจะลองเด็ดขาด
96.อย่าทำตามเพื่อนเพราะเพื่อนทำกันหมด ร่างกายเขากับร่างกายเรา แน่นอนจิตใจก็เหมือนกัน
97.ผู้ชายยังไงก้อคือผู้ชาย ผู้หญิงยังไงก็คือผู้หญิง
98.บางครั้งการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้เลวร้ายเสมอไป
99.ไม่มีมิตรถาวรและศัตรูที่เเท้จริง
100.จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด เพื่อตัวเราเอง คนที่เรา รัก และคนที่อยู่รอบกายเรา
ปล. แค่อ่านมันไม่มีประโยชน์อะไรหรอก ถ้าคุณไม่นำเอาไปปฏิบัติจริง